การทดสอบ เพื่อสังเกตเสียงดังผิดปกติที่เกิดจากเฟือง ท้ายรถยนต์ วิธีที่ง่ายที่สุดที่ท่านสามารถทำได้ด้วยตนเองคือ
1. ให้ท่านขับรถยนต์ของท่านตามปกติไปในระยะทางหนึ่ง เพื่อให้นํ้ามันหล่อลื่นในเฟืองท้ายรถยนต์ร้อนขึ้น เนื่องจากเสียงดังผิดปกติที่เกิดในเฟืองท้ายรถยนต์จะดังมากเมื่อเวลาที่น้ำมันหล่อลื่นในเฟืองท้ายร้อนขึ้น
2. ให้ปิดเสียงของอุปกรณ์ภายในรถยนต์ให้หมด เช่น วิทยุ แอร์ หรือที่ปัดน้ำฝน
3. ให้พยายามแยกเสียงดังที่เกิดจากส่วนต่าง ๆ ภายในรถยนต์ เนื่องจากเสียงที่เกิดจากเฟืองท้ายรถยนต์ จะมีเสียงคล้าย ๆ กับเสียงต่าง ๆ ภายในรถยนต์ เช่น เสียงที่เกิดจากยางรถยนต์กลิ้งไปบนพื้นถนน เสียงที่เกิดจากแบริ่ง เสียงเครื่องยนต์ และเสียงของระบบเกียร์
เสียงของยางรถยนต์ จะเป็นเสียงที่สม่ำเสมอ ขึ้นอยู่กับความเร็วของรถยนต์และจะมีเสียงเปลี่ยนแปลงไป เมื่อเราขับรถยนต์บนผิวถนนที่แตกต่างกัน เมื่อเราเปรียบเทียบเสียงของเฟืองท้ายรถยนต์กับเสียงของยาง จะเห็นว่าเสียงของเฟืองท้ายจะไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเราขับรถไปบนผิวถนนที่แตกต่างกัน และจะมีเสียงค่อยลงเมื่อความเร็วต่ำๆ ประมาณ 50 กิใลเมตรต่อชั่วโมง
เสียงของแบริ่งล้อ หรือแบริ่งเพลาข้างจะดังสม่ำเสมอ ถึงแม้ว่ารถยนต์จะวิ่งอยู่บนผิวถนนที่แตกต่างกัน เราจะสังเกตเสียงของแบริ่งล้อ หรือแบริ่งเพลาข้างได้ โดยเราจะเหยียบเบรกเบา ๆ ขณะที่รถยนต์มีความเร็วสม่ำเสมอ ถ้าเสียงดัง เพราะแบริ่งล้อหรือแบริ่งของเพลาข้าง ระดับเสียงจะเปลี่ยนไป อีกวิธีหนึ่งที่จะชี้ชัดว่าเป็นเสียงของแบริ่งล้อหรือแบริ่งของเพลาข้างก็โดยการเลี้ยวรถโดยกระทันหัน ถ้าเป็นเสียงของแบริ่งล้อหรือแบริ่งของเพลาข้างเสียงจะดังขึ้น
เสียงของระบบเกียร์ เราจะสามารถสังเกตได้ โดยการขับรถแล้วเปลี่ยนเกียร์ต่าง ๆ กัน ถ้าเป็นเสียงของระบบเกียร์ เสียงจะดังขึ้นหรือค่อยลง
สำหรับเสียงของเครื่องยนต์ หรือเสียงจากท่อไอเสีย เราสามารถสังเกตได้ไดยง่าย โดยการขับรถไปด้วยความเร็วที่เกิดเสียงจนสังเกตได้ จากนั้นให้หยุดรถใส่เกียร์ว่างแล้วเร่งเครื่องยนต์จนมีความเร็วรอบเครื่องยนต์เท่ากับตอนแรก ถ้าเรายังสามารถได้ยินเสียงดังอีกเหมือนเดิมก็แสดงว่าเป็นเสียงเครื่อง หรือเสียงจากท่อไอเสีย
cr : https://www.auto2drive.com/